ต้องการขายแอร์หาทักเรา!

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแอร์

การเปลี่ยนแอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของแอร์ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ประสิทธิภาพของแอร์เก่า ความถูกต้องและประสิทธิภาพของการทำงาน รวมถึงความต้องการใช้พลังงานและการปรับอากาศในบริเวณที่ใช้งานแอร์อยู่ด้วย
นี่คือบางสัญญาณที่อาจชี้ให้คุณรู้ว่าควรเปลี่ยนแอร์:

1. อายุของแอร์: หากแอร์ของคุณมีอายุกว่า 10 ปีขึ้นไปแล้ว มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน และการใช้พลังงานที่ไม่คุ้มค่า คุณอาจพิจารณาเปลี่ยนแอร์ใหม่ที่มีเทคโนโลยีและประสิทธิภาพที่ดีกว่า
2. ค่าไฟฟ้าสูง: หากค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงานแอร์เก่าของคุณสูงมากและกำลังเพิ่มขึ้น อาจเป็นเครื่องชี้วัดที่แสดงถึงความไม่พอดีของประสิทธิภาพพลังงานของแอร์ เปลี่ยนเป็นแอร์ที่มีระบบประหยัดพลังงานสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
3. ปัญหาการทำงาน: หากคุณพบว่าแอร์เก่ามีปัญหาเช่นการทำงานไม่เย็นเพียงพอ หรือมีเสียงดังหรือการรั่วไหล นี่อาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรเปลี่ยนแอร์เพื่อประ

การสังเกตอาการผิดปกติของแอร์แล้วพบแต่เนิ่น ๆ ทำให้มีโอกาสซ่อมและคืนสู่สภาพปกติได้เร็วและลดค่าใช้จ่ายได้มาก วันนี้ “ร้านกฤษฎาแอร์” มีวิธีสังเกตอาการที่บ่งบอกว่าแอร์กำลังมีปัญหาด้วยตนเองมาฝาก

1. อาการ ค่าไฟฟ้าสูง

มีสาเหตุจาก

– หากตรวจเช็คดูแล้วว่าคอมเพรสเซอร์ทำงาน อาจเป็นเพราะแอร์สกปรก ต้องทำการล้างแอร์ทั้งคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นโดยปั๊มน้ำแรงดันสูง

– น้ำยาแอร์ขาด ต้องเติมน้ำยาเข้าระบบแรงดันประมาณ 70-80 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

– มีการอุดตันของระบบน้ำยาแอร์ ต้องทำการเปลี่ยนแคปทิ้ว(ตัวฉีดน้ำยา) , ไดเออร์(ตัวกรองความชื้น) และแวคคั่มระบบเติมน้ำยาใหม่

– ถ้าคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่มีกำลังอัด อันนี้ถึงขั้นเปลี่ยนคอมใหม่

– ถ้าคอมแอร์ทำงาน อาจมีสายไฟหลุด , ขาด ต้องทำการตรวจเช็ค หาจุดที่สายไฟขาดหรือหลุด

– แมกเนติก(ตัวตัดต่อวงจรไฟฟ้า)เสีย ต้องทำการเปลี่ยนแมกเนติก

– แคปสตาร์ทเสีย ต้องทำการเปลี่ยนแคป

– แผงควบคุม(ที่คอยล์เย็น)เสียต้องทำการเปลี่ยนหรือส่งซ่อมที่ศูนย์บริการของผู้ผลิต

– คอมเพสเซอร์เสีย ต้องทำการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่ทั้งตัว

 

**แอร์ไม่เย็นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ แนะนำให้ตรวจโดยละเอียดโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

2. อาการน้ำหยดที่คอยล์เย็น

มีสาเหตุจาก

– แอร์สกปรก ต้องทำการล้างแอร์ด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง

– ข้อต่อท่อน้ำทิ้งหลุด ทำการตรวจเช็คหาจุดที่หลุด

– ท่อน้ำทิ้งตัน ทำการฉีดไล่ด้วยปั๊มแรงดันสูง หรือถ้ามีอาการเรื้อรังอาจเกิดจากมีการอุดตันที่ถาดน้ำทิ้งด้านหลังตัวแอร์ ทำการตัดคอยล์เย็นลงมาทำการถอดชิ้นส่วนและฉีดล้างให้ทั่ว

3. อาการแอร์มีกลิ่นอับชื้น

มีสาเหตุจาก

– ในห้องมีความชื้นสูง ตั้งโหมดลดความชื้นที่ตัวแอร์

– แอร์สกปรก ทำการล้างแอร์ด้วยปั๊มแรงดันสูง

– เดินท่อน้ำทิ้งไปตรงกับท่อระบายน้ำ ทำการเปลี่ยนตำแหน่งใหม่

 

4. อาการคอยล์ร้อนเสียงดัง ( ตัวระบายความร้อน )

มีสาเหตุจาก

– มอเตอร์พัดลมเสีย ต้องทำการเปลี่ยนมอเตอร์

– ใบพัดลมตีกับโครงแอร์ ทำการตรวจเช็คหาจุดที่กระทบกัน

– มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวเครื่อง ทำการตรวจเช็ค

– แมกเนติกเสื่อม ต้องทำการเปลี่ยนแมกเนติก

 

แอร์เสียเปิดไม่ติด,แอร์เสียไฟกระพริบ,คอมเพรสเซอร์แอร์เสีย,อาการคอมแอร์บ้านเสีย,วิธีเช็คแอร์เสีย,คอยล์เย็นแอร์ เสีย,สาเหตุแอร์เสีย,